มูลนิธิสัมมาชีพประกาศมอบรางวัล “ต้นแบบสัมมาชีพ” ครั้งที่ 11 ประจำปี 2568 รวม 13 รางวัล เชิดชูบุคคลต้นแบบ เอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน และปราชญ์ชาวบ้าน ที่มีผลงานโดดเด่นในการประกอบการบนหลักสัมมาชีพ มีบทบาทยกระดับศักยภาพท้องถิ่นให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน “ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์” ประธานหอการค้าไทย คว้ารางวัลบุคคลต้นแบบแห่งปี

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ กล่าวว่า มูลนิธิสัมมาชีพได้จัดงานมอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพครั้งที่ 11 ประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เพื่อยกย่องผู้ที่ประสบความสำเร็จในการประกอบการตามแนวทางสัมมาชีพ นั่นคือ การยึดหลักไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม และมีรายจ่ายน้อยกว่ารายได้ รวมทั้งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก สร้างความยั่งยืนให้ชุมชน โดยรางวัลดังกล่าวได้มอบให้กับวิสาหกิจชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน เอสเอ็มอี ไปจนถึงผู้บริหารองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ เพื่อเป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนในการร่วมพัฒนายกระดับเศรษฐกิจฐานราก พร้อมสร้างความยั่งยืนให้ชุมชน

สำหรับการจัดงานมอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจสัมมาชีพท้องถิ่น แกนกลางเศรษฐกิจไทย”  เพื่อตอกย้ำว่า เมื่อเศรษฐกิจฐานรากแข็งแรงบนหลักการสัมมาชีพ ประเทศก็สามารถสร้างการเติบโตใหม่ได้อย่างสมดุลทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

“รางวัลต้นแบบสัมมาชีพมีเป้าหมายส่งเสริมสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นการเชิดชูเกียรติบุคคล วิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี และปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพที่มีประกอบการอย่างมีสัมมาชีพ และมีบทบาทช่วยยกระดับเศรษฐกิจชุมชน และการจัดงานครั้งนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรภาคีต่างๆ ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาควิชาการ ที่ได้ทำงานร่วมกับมูลนิธิและชุมชนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม” นายประเสริฐกล่าว

สำหรับรางวัล “ต้นแบบสัมมาชีพ” ประจำปี 2568 มีทั้งสิ้น 13 รางวัล แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ รางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพ รางวัลเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ รางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมาชีพ และรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ

สำหรับรางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพ เป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารธุรกิจ ได้รับการยอมรับด้านความดีงาม และมีบทบาทส่งเสริมพัฒนาสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม ควบคู่ธุรกิจ ซึ่งในปีนี้ ผู้ที่ได้รับรางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพคนที่ 11 คือ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  ประธานกรรมการ/ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ โดยดร.พจน์ เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและพัฒนาจนบริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน) เติบโต เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกปลาทูน่ากระป๋องรายใหญ่ของโลก นอกจากนี้ ยังมีบทบาทขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติทั้งในภาคธุรกิจระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งในฐานะประธานหอการค้าไทย ดร.พจน์วางนโยบายพัฒนาธุรกิจการค้าไทยให้มีศักยภาพเติบโตยั่งยืน  “Unlocking New Growth ศักยภาพใหม่แห่งการเติบโต” ไว้ 4 ด้าน ได้แก่ Build Business Confidence & Strengthen Trade & Investment in Global Supply Chains หรือการสนับสนุนการลงทุนของไทยในต่างประเทศและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ สร้างความร่วมมือกับนานาประเทศ, Business Transformation: Innovation, Digital, AI, Robot, IoT & ESG Integration การขยายตลาดและการลงทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี AI Robot, Talent Development พัฒนาเครือข่าย Talent Ecosystem สถาบันการศึกษา ภาครัฐและเอกชน, Empowering Public – Private Partnerships สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทย เชื่อมโยงผู้ประกอบการทุกระดับตั้งแต่เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอีไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

สำหรับรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ เป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ที่สร้างสรรค์พัฒนางานที่ก่อให้เกิดคุณค่าต่อผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ยั่งยืน และขยายเผยแพร่องค์ความรู้สู่สังคม เพื่อร่วมพัฒนาในระดับชุมชน ท้องถิ่น หรือระดับประเทศ โดยผู้ที่ได้รับรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ ประจำปี 2568 ได้แก่

นางเสงี่ยม แสวงลาภ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ผู้นำชุมชนที่พัฒนา “บ้านนาต้นจั่น” จากหมู่บ้านเกษตรกรรมเล็ก ๆ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม มีกิจกรรมด้านท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชน สร้างงานให้คนรุ่นใหม่ที่กลับคืนถิ่น

นาวาตรีสถาพร สกลทัศน์ ต.บ้านกาด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ผู้สร้าง สัมมาชีพกาแฟเพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นผสานกับการสร้างอาชีพ เปลี่ยนพื้นที่ไร่ข้าวโพดเป็นไร่กาแฟอินทรีย์ ถ่ายทอดองค์ความรู้ร้านกาแฟทำมือให้เยาวชนในพื้นที่สูงภาคเหนือ

นายปิยณัฏฐ์ อิสสระสงคราม จ.ระนอง ผู้พัฒนา “หัตถศิลป์ดิ้นโบราณบาบ๋า-ยาหยา” ที่เคยใกล้สูญหายให้กลับมา โดยเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมแฟชั่นและออกแบบ พัฒนาเป็นสินค้าแฟชั่น ของที่ระลึก และผลิตภัณฑ์ส่งออกระดับสากล สร้างรายได้ให้ชุมชนแม่บ้าน ผู้สูงอายุ และเยาวชน

สำหรับรางวัลเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพมอบให้กับเอสเอ็มอีที่สร้างธุรกิจให้เติบโตบนหลักสัมมาชีพ ควบคู่ไปกับการมีบทบาทส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ดูแลสิ่งแวดล้อม มีผู้ที่ได้รับรางวัล 4 ราย คือ

บริษัท เอ็มมันนี่ บรอดแบนด์ จำกัด จ.อุดรธานี บริการติดตั้ง ซ่อมบำรุง บริการอินเทอร์เน็ตบ้าน องค์กร ช่วยขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้เข้าถึงพื้นที่ห่างไกล ลดความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี

บริษัท มิลค์ พลัส แอนด์ มอร์ จำกัด จ.ปทุมธานี คิดค้นและผลิตน้ำหัวปลีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร และผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและเด็ก มีบทบาทส่วนสนับสนุนเกษตรกรผู้ผลิตวัตถุดิบ

บริษัท บุญยวง อินดัสทรี จำกัด จ.สุโขทัย ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องจักรกลทางการเกษตรสำหรับเกษตรกรรายย่อย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการผลิตแก่เกษตรกร

บริษัท เวย์ เมคเกอร์ จำกัด จ.สมุทรปราการ ให้คำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ จัดทำหลักสูตรตลาดออนไลน์เบื้องต้นและการตลาดออนไลน์แบบมืออาชีพ รวมถึงการให้ความรู้ด้านการตลาดออนไลน์แก่ชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อย

สำหรับรางวัลวิสาหกิจชุมชนมอบให้กับวิสาหกิจชุมชนซึ่งมีส่วนสร้างเศรษฐกิจชุมชน โดยนำภูมิปัญญาท้องถิ่น นวัตกรรมมาปรับใช้ และมีส่วนช่วยแก้ปัญหาชุมชนในด้านต่างๆ โดยวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับรางวัล 5 กลุ่ม ประกอบด้วย

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านวังร่อง จ.เพชรบูรณ์ ประเภทการเกษตร ปรับระบบการผลิตจากเกษตรเคมีสู่เกษตรอินทรีย์ โดยเชื่อมโยงกับระบบตลาดสมัยใหม่ เช่น Lemon Farm และร้านท้องถิ่น ระบบการผลิตและการตลาดที่มั่นคงให้กับชุมชน

พลิกมะขามพื้นถิ่นให้เป็นสินค้าสร้างมูลค่าภายใต้แบรนด์ “มะขามบ้านเสี้ยว” มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ส่งเสริมคนรุ่นใหม่คืนถิ่น ร่วมพัฒนาแบรนด์และขายออนไลน์

วิสาหกิจชุมชนผ้ามัดย้อมชิโบริสีธรรมชาติแม่อิง จ.พะเยา ประเภทแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร สร้างอาชีพหัตถกรรมทดแทนภาคเกษตร และสร้างงานคนเปราะบางในพื้นที่ โดยสร้างสรรค์งานหัตถกรรมผ้าย้อมสีธรรมชาติ เชื่อมโยงแฟชั่นระดับประเทศ

ตลาดโอ๊ะป่อย ชุมชนท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถีบ้านท่ามะขาม จ.ราชบุรี ประเภทการบริการและการท่องเที่ยวโดยชุมชน แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง–มอญ ถ่ายทอดวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมและอาหารพื้นถิ่น ควบคู่แนวคิด Zero Waste เป็นต้นแบบการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับประเทศ

สหกรณ์การเกษตรพนมวังก์ จำกัด จ.พัทลุง ประเภทการเงินและสวัสดิการชุมชน เป็นแหล่งเงินทุนให้สมาชิก พัฒนาอาชีพทั้งอาชีพหลักด้านเกษตรและอาชีพเสริม รวมทั้งสร้างกิจการและธุรกิจต่าง ๆ จึงมีบทบาทสำคัญด้านการสร้างรายได้และสวัสดิการให้สมาชิก

“รางวัลต้นแบบสัมมาชีพเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาการประกอบการของชุมชนที่ประสบความสำเร็จโดยดำเนินงานอย่างมีสัมมาชีพ และส่งผลดีต่อชุมชนในพื้นที่ จึงถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศในยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยภายนอกสูง มูลนิธิสัมมาชีพจึงยืนหยัดในภารกิจนี้ และจะเดินหน้าขยายพลังของต้นแบบสัมมาชีพให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศไทยต่อไป” นายประเสริฐ กล่าว

ประธานกรรมการมูลนิธิกล่าวต่อว่า  นอกจากการมอบรางวัลแล้ว มูลนิธิสัมมาชีพยังได้จัดเวทีวิชาการ “นวัตกรรมสังคมกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก” เพื่อถ่ายถอดบทเรียนความสำเร็จของผู้ประกอบการชุมชนที่นำนวัตกรรมสังคมมาปรับใช้ เพื่อจะได้จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนต่อภาครัฐต่อไป โดยเวทีดังกล่าวมีปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ประสบการณ์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของรัฐและเอกชน” โดยนายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ รองประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ การปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “นวัตกรรมสัมมาชีพ พลังขับเคลื่อนฐานรากและท้องถิ่น” โดย นายมงคล ลีลาธรรม ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิสัมมาชีพ และการนำเสนอผลการศึกษา “แนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและโอกาสของการสร้างหัวขบวนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น” จากดร.สุนทร คุณชัยมัง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนานวัตกรรมสังคม

“งานวิชาการครั้งนี้ ไม่เป็นเพียงเป็นเวทีที่นำเสนอผลการศึกษา ถ่ายทอดความรู้ แต่ยังทำหน้าที่เชื่อมโยง “พลังของต้นแบบสัมมาชีพ” สู่ภาคนโยบาย เพื่อร่วมกันสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงในระดับประเทศ” นายประเสริฐ กล่าว

---

---