skip to Main Content
02-530-9204 sammachiv.pr@gmail.com
ชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง มูลนิธิสัมมาชีพ สร้างสังคมแบ่งปันความรู้ด้วย “ธนาคารเวลาสัมมาชีพ” นวัตกรรมสังคม ใช้ “เวลา” เป็นสื่อกลาง

ชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง มูลนิธิสัมมาชีพ สร้างสังคมแบ่งปันความรู้ด้วย “ธนาคารเวลาสัมมาชีพ” นวัตกรรมสังคม ใช้ “เวลา” เป็นสื่อกลาง

เมื่อ “เวลา” กลายเป็นสื่อกลางของการแบ่งปันความรู้ สังคมแห่ง “การให้-การแบ่งปัน” กำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ แต่ทรงพลัง

ในยุคที่ทุกวินาทีคือเงินทอง มูลนิธิสัมมาชีพ กลับมอง “เวลา” ว่าเป็นของล้ำค่าที่ทุกคนสามารถหยิบยื่นให้แก่กันได้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ “ธนาคารเวลาสัมมาชีพ”  โครงการนวัตกรรมทางสังคมที่นำโดย ชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง (The Society of Leadership for Change-sLFC) มูลนิธิสัมมาชีพ ที่กำลังเป็นพื้นที่ใหม่แห่งการแบ่งปัน องค์ความรู้ ประสบการณ์ และน้ำใจ โดยไม่มีเรื่องของเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง

“ทุกคนมีสิ่งที่สามารถแบ่งปันได้”

“ทุกคนมีประสบการณ์ มีทักษะ มีความรู้ที่แตกต่างกัน และสิ่งเหล่านี้สามารถเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้อย่างมหาศาล”  คำกล่าวของ “คุณมงคล ลีลาธรรม” ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิสัมมาชีพและประธานชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง ที่บ่งบอกหัวใจสำคัญของโครงการนี้ได้เป็นอย่างดี

ชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง ได้ริเริ่ม โครงการธนาคารเวลาสัมมาชีพขึ้น เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนความรู้ การให้คำปรึกษาแก่สมาชิกชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยเล็งเห็นว่า ความรู้ ทักษะความเชี่ยวชาญที่สมาชิกชมรมแต่ละคนมีนั้นจะสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่นได้มาก รวมถึงเป็นการส่งเสริมการแบ่งปันระหว่าง มีทั้ง “การให้” และ “การรับ”

เดิมที สมาชิกชาว LFC อาจจะไม่มีช่องทางที่จะสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวในวงกว้าง

แต่ด้วยระบบของธนาคารเวลาที่ “จัดให้” ทุกคนจึงสามารถเข้าร่วมโครงการได้เวลาแทนค่าเงิน – การให้ที่ได้มากกว่า

แนวคิดของธนาคารเวลานั้นเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง – ทุกๆ 1 ชั่วโมงของการให้คำปรึกษาหรือคำแนะนำ จะได้รับ 1 แต้มคะแนน และจะบันทึกไว้ในระบบของธนาคารเวลาสัมมาชีพ สมาชิกสามารถใช้แต้มนี้เพื่อรับบริการจากสมาชิกคนอื่นตามความรู้หรือทักษะที่ต้องการ

กิจกรรมการให้และรับบริการของธนาคารเวลาสัมมาชีพเบื้องต้น จะครอบคลุมการให้ความรู้ คำแนะนำ  7 ด้านหลัก ได้แก่ การบริหารธุรกิจ การเงิน การตลาด เทคโนโลยีและนวัตกรรม สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน การพัฒนาชุมชน การพัฒนาศักยภาพผู้นำ

กิจกรรมดังกล่าวนี้ ถือเป็นประเด็นฮิทฮอทตอบโจทย์การทำธุรกิจ ตอบโจทย์คนทำงาน ช่วยแก้บางประเด็นปัญหา ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพตนเอง โดยผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ นอกจากจะเป็นสมาชิกชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลงแล้ว เครือข่าย องค์กรภาคีของมูลนิธิสัมมาชีพ ก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน

เพียงแค่ระบุความเชี่ยวชาญของตนตามข้อมูลข้างต้น หรือสิ่งที่ต้องการรับคำปรึกษา เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการให้หรือรับบริการต่อไป

ธนาคารเวลาสัมมาชีพจะเป็นเหมือน “พื้นที่ส่วนกลาง” ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถมาร่วมแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือระหว่างสมาชิกชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนสมาชิกจากชุมชน หรือจากองค์กรภาคีของมูลนิธิ เพราะสมาชิกชมรม LFC มีความรู้ ความถนัดเฉพาะทางที่หลากหลาย และความรู้เหล่านี้สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นได้มากโดยเฉพาะชุมชน วิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี ที่จะเข้าร่วม

ประการสำคัญ คือ เป็นการส่งเสริมการทำความดีที่ “ส่งต่อ” กันไปเรื่อยๆ ของคนในสังคม” คุณมงคลกล่าว

สังคมแห่งการ “ให้” ที่เติบโตอย่างยั่งยืน

ธนาคารเวลาสัมมาชีพ  จึงไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ปัญหาหรือยกระดับศักยภาพของสมาชิกเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมจิตสำนึกของการเป็น “ผู้ให้” ในสังคม ที่สามารถส่งต่อความดีงามแบบลูกโซ่ เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง และเครือข่ายความร่วมมือที่ไม่หยุดนิ่ง

ผู้สนใจร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันของธนาคารเวลาสัมมาชีพสามารถสมัครได้ผ่าน Google Form  https://forms.gle/oPDjNUvaK5owkNRNA โดยหลังสมัครแล้วจะได้รับการเชิญจากทางคณะทำงานธนาคารเวลาสัมมาชีพเพื่อเข้าร่วมกลุ่มไลน์ธนาคารเวลาสัมมาชีพต่อไป

สิทธิพิเศษดีๆ ปีแห่งการเริ่มต้น

เนื่องจากในปีนี้ เป็นโอกาสที่มูลนิธิสัมมาชีพมีอายุครบรอบ 16 ปี  ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการในปีนี้ยังจะได้รับโบนัสคะแนนทันที 16 แต้ม พร้อมกับสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น การคูณคะแนนในระยะเวลาพิเศษ และโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมอบรมต่างๆ รวมถึงการมอบเกียรติบัตรสำหรับผู้มีแต้มสะสมสูงๆ ต่อไป

เมื่อการ “ให้เวลา” คือการสร้างความเติบโตร่วมกัน

โลกที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน ไม่ได้ต้องการแค่เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า แต่ยังต้องการ “หัวใจ” ที่พร้อมจะแบ่งปัน

โครงการธนาคารเวลาสัมมาชีพ แท้จริงแล้วจึงไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยนความรู้ แต่คือการเชื่อมต่อคนกับคน ด้วยความต้องการที่จะแบ่งปัน สร้างการเติบโตไปด้วยกัน


Back To Top