skip to Main Content
02-530-9204 sammachiv.pr@gmail.com
“สัมมาชีพ”อบรมผู้นำฯ รุ่น 11 Local To Global ดันเศรษฐกิจชุมชนสู่ตลาดโลก

“สัมมาชีพ”อบรมผู้นำฯ รุ่น 11 Local to Global ดันเศรษฐกิจชุมชนสู่ตลาดโลก

ประเภท : รายงานข่าว
“สัมมาชีพ”อบรมผู้นำฯรุ่น 11
Local to Global
ดันเศรษฐกิจชุมชนสู่ตลาดโลก

            มูลนิธิสัมมาชีพ จัดอบรมผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่น 11 ระดมอดีตรัฐมนตรี องค์กรภาครัฐ นักวิชาการ ผู้ประกอบการเอกชน ผู้นำท้องถิ่น เป็นวิทยากรชี้ช่องพลิกวิกฤตโควิดเป็นโอกาสดัน ศก.ชุมชนสู่ตลาดโลก เปิดรับผู้อบรม 100 คน เริ่มกันยายนนี้

 

          มูลนิธิสัมมาชีพ รายงานว่า เปิดหลักสูตรอบรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนรุ่น 11 ในวันที่ 26  กันยายน – 1  พฤศจิกายน 2563 โดยอบรมเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ที่ห้องจูปีเตอร์ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. เปิดรับสมัครผู้เข้าอบรม 100 คน แบ่งเป็นผู้สมัครผ่านการลงทะเบียนและคัดเลือกทั่วไป 60 คน แบบโควต้าของผู้ร่วมพัฒนาหลักสูตร 30 คน และอีก 10 คนเป็นตัวแทนผู้นำชุมชน

 

         กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าอบรมครั้งนี้ มูลนิธิสัมมาชีพกำหนดไว้คือ ผู้บริหารขององค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)  ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้นำชุมชนทั้งในชนบทและเมือง ตลอดจนผู้สมัครที่มีโครงการดำเนินการและต้องการปรับปรุงโครงการการผลิตเพื่อส่งออกตลาดต่างประเทศ

 

         การอบรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลงรุ่น 11 อยู่ภายใต้กรอบความรู้หลักคือ Local to Global: ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนสู่ตลาดโลก ซึ่งเนื้อหาหลักสูตรมุ่งเน้นไปยังกลุ่มธุรกิจอาหาร สมุนไพรและการท่องเที่ยว เพื่อให้มองเห็นโอกาสและมีองค์ความรู้นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารป้อนตลาดโลก

 

        มูลนิธิสัมมาชีพ รายงานว่า ประเทศไทยมีจุดแข็งด้านเป็นผู้ผลิตอาหารให้กับประชากรโลก โดยส่งออกอาหารเป็นอันดับที่ 11 ของโลก โดยในปี 2562 มีมูลค่าส่งออก 33,100 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีส่วนแบ่งตลาดโลกถึง 2.51% ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตได้อีกอย่างสูง

 

       โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่โลกกำลังเผชิญปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ความสามารถด้านการผลิตอาหารและการขนส่งประสบปัญหาทั่วโลก จึงเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อป้อนสู่ตลาดโลก

 

        การอบรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลงรุ่น 11 นี้จะมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาชี้แนวทางการดำเนินธุรกิจอาหาร เช่น ศ.ดร.สุชัชวีร์  สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) นางปรารถนา หาญเมธี Participatory Learning expert เป็นต้น

 

        นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาถ่ายทอดประสบการณ์การดำเนินธุรกิจอาหารให้ผู้เข้าอบรมด้วย เช่น นายขจรรัฐ สุระโคตร วิสาหกิจชุมชนบ้านอุ่มแสง นายธีระวัฒน์ วิไลรัตน์ U-Smaile 101 นายปณชัย พิสัยเลิศ-อาเดล บริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด เป็นต้น

 

        ส่วนรูปแบบการอบรมมีทั้งการบรรยาย เสวนา อบรมเชิงปฏิบัติการ การลงพื้นที่ศึกษาข้อมูล จุดแข็งผลิตภัณฑ์และโอกาสในการพัฒนาสินค้าและบริการ อีกทั้งรวมกลุ่มทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนเพื่อแลกเปลี่ยน นำเสนอแผนงานต่อผู้ทรงคุณวุฒิและตัวแทนองค์กรที่มีงบประมาณ

 

        ทั้งนี้ มูลนิธิสัมมาชีพ ระบุว่า ได้จัดอบรมหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลงติดต่อกันมาตั้งแต่ ปี 2553 จนถึงปี 2562 มาแล้วจำนวน 10 รุ่น มีผู้ผ่านการอบรม 1,156 คน เป็นบุคลากรจากภาครัฐ (ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค ท้องถิ่น และท้องที่) 322 คน ( 28%) ภาคเอกชน 640 คน (55%) ภาคประชาสังคม 123 คน ( 11%) และองค์กรมหาชน 66 คน (6%)

 

       สิ่งสำคัญ ผู้ผ่านการอบรมในหลักสูตรนี้ ได้ร่วมกันสร้างเครือข่ายจัดตั้ง “ชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง” (the Society of Leadership for Change) หรือเรียกโดยย่อว่า LFC Club เพื่อผนึกกำลังสนับสนุนการดำเนินงาน เพิ่มเติมทักษะ และแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้เพื่อเติมพลังซึ่งกันและกัน เพื่อก้าวสู่การเป็นเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจสัมมาชีพจนเต็มพื้นที่ประเทศไทย

 

       มูลนิธิสัมมาชีพ ระบุว่า ผู้สนใจเข้าอบรมหลักสูตรแจ้งความจำนงที่มูลนิธิฯ หรือติดต่อขอรายละเอียดที่คุณเกียววะลี มีสิทธิ์ โทรศัพท์ 090-262-3653 และ คุณณัฐณิชา เสมือนโพธิ์ โทรศัพท์ 094-043-0163

Back To Top