เผยโฉม “5 ผู้ประกอบการ SME ฝ่าด่านหิน คว้ารางวัลต้นแบบสัมมาชีพ ปี 2561
เนื่องด้วย “มูลนิธิสัมมาชีพ” ได้จัดให้มีการประกวดรางวัลเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ ประจำปี 2561 ผลการคัดเลือกรางวัล จากผู้สมัครทั้งหมด 47 ราย มีผู้สมัครที่ผ่านเกณฑ์และได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล 5 ราย ได้แก่
“กฤษณา เฮลท์ตี้โปรดักส์”
“โซ่ข้อกลาง SME 200 ราย”
บริษัท กฤษณาเฮลท์ตี้โปรดักส์ จำกัด จ.นครราชสีมา บริหารงานโดย “นายสุทธิสินธุ์ อัครพลโชติ” จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2556 การดำเนินกิจการของบริษัท ผลิตสินค้าข้าวตัง จากปลายข้าวหอมมะลิ และชาหอมกฤษณา
บริษัท กฤษณาเฮลท์ตี้โปรดักส์ มีเครือข่ายผู้ประกอบการมากว่า 200 ราย ได้เชื่อมร้อยกันและยกระดับความรู้ของระบบการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ วัตถุดิบใช้ในการผลิตจะรับซื้อปลายข้าวอินทรีย์จากโรงสีข้าวออแกนิค 2 โรงซึ่งผลิตข้าวส่งออกไปยังตลาด EU โดยนำปลายข้าวมาแปรรูปทำขนม โดยใช้ชื่อ “ตังตัง” และคิดค้นสูตรใหม่ เช่น การพัฒนาสูตรที่มีส่วนผสมของสินค้าเกษตรชนิดอื่น ทุเรียน ชาสมุนไพรจากใบไม้กฤษณา สินค้าที่ผลิตได้มาตรฐาน GMP CODEX
สำหรับช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีหลายช่องทาง เช่น
กลุ่มร้านกาแฟชั้นนำ ร้านของฝากชั้นนำ และร้านอาหารเพื่อสุขภาพ 400-600 ร้าน กลุ่มร้านค้า ร้านกาแฟ ในตึก Office และโรงแรม รีสอร์ท 100 ร้านกลุ่มเทรดเดอร์และตัวแทนส่งออก (จีน) และรับจ้างผลิตสินค้าประเภท OEM ให้กับผู้ประกอบการ SME ทั่วไป
ที่สำคัญ บริษัทยังตัดกำไร 10% มาสร้างการเรียนรู้ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ให้กับเครือข่าย OTOP และเครือข่ายผู้ประกอบการ บริษัทยังเป็นแกนนำหลักในการสร้าง Cluster รวมพลคนเกษตรอินทรีย์ มีสมาชิก 230 กลุ่ม และรับเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจให้กับ SME Startup โดยบริษัทได้เชื่อมต่อธุรกิจกับประเทศจีนและประเทศลาว ทำ MOU ร่วมกัน อนาคตจะเชื่อมตลาดไปสู่ตลาดสหภาพยุโรปหรือ EU ต่อไป
ซีอาร์-วัน ไบโอพลัส
เปลือกกุ้ง-สมุนไพร ผลิตสารชีวภาพ
บริษัท ซีอาร์-วัน ไบโอพลัส จำกัด จ.แพร่ บริหารงานโดย “นายจรูญ ส่างส่วยยี่” ประกอบธุรกิจผลิตและ จัดจำหน่ายสารชีวภาพทางการเกษตร ไคโตซานจากเปลือกกุ้งและสมุนไพรพื้นบ้านตามฤดูกาลจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2557
เนื่องจาก ผู้บริหารบริษัท เคยมีประสบการณ์ในการร่วมงานกับบริษัทญี่ปุ่น ในเรื่องไคโตซาน ที่ใช้กับการเกษตรในประเทศไทย ทำให้มีองค์ความรู้ จึงได้เริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการผลิตและจัดจำหน่ายสารชีวภาพทางการเกษตร ไคโตซานจากเปลือกกุ้งและสมุนไพรพื้นบ้านตามฤดูกาล
นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้ส่งเสริมความรู้ให้กับเกษตรกรเรื่องการใช้สมุนไพรและสารชีวภาพเพื่อลดการใช้สารเคมีลง ปัจจุบันบริษัท ทำการผลิตสารชีวภาพทางการเกษตร 5 ชนิด โดยใช้วัตถุดิบจาก เปลือกกุ้ง และสมุนไพร พร้อมรับผลิตสินค้า OEM โดยรับซื้อวัตถุดิบที่เป็นสมุนไพรตามฤดูการ เช่น พริกตกเกรด เมล็ดสะเดา ตะไคร้ ข่า ฟ้าทะลายโจร ใบยาสูบ เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัท ได้ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์และลดต้นทุนทางการผลิให้กับเกษตรกรที่ เพาะเห็ดนางฟ้า แตงกวา ให้มีความรู้เรื่องการใช้สารชีวภาพที่ถูกวิธี ทำให้ผลผลิตดกและได้น้ำหนัก มีรายได้เพิ่ม ทำให้หันมาใช้สารชีวภาพแทนการใช้สารเคมี พร้อมกันนี้บริษัทเป็นศูนย์เรียนรู้และแปรงสาธิตทางการเกษตรให้กับนักศึกษา และผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ และมีแผนใช้สารชีวภาพ เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ อีกด้วย
“เอ็นทีที 888….”
หน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์…สู่ผงเพื่อสุขภาพ”
ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นทีที 888 จ.เพชรบูรณ์ มี “ธีระวัฒน์ วิไลรัตน์” เป็นผู้บริหาร จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2557 ดำเนินกิจการส่งออกผักเศรษฐกิจผักปลอดสารและการเกษตรปลอดภัย GAPหน่อไม้ฝรั่งผงเพื่อสุขภาพและดำเนินกิจการส่งเสริมความรู้ด้านการปลูกพืชส่งออกผักเศรษฐกิจแบบปลูกแบบ ORGANIC และการเกษตรปลอดภัย GAP รับซื้อพืชผักจากเกษตรกรภายในชุมชน เพื่อนำมาแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อสุขภาพ
เดิมธุรกิจหลักของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นทีที 888 เป็นผู้ประกอบการร้านค้าขายวัสดุอุปกรณ์ทางการเกษตรโดยได้ร่วมส่งเสริมและแก้ไขปัญหาให้กับเครือข่ายเกษตรกรที่ปลูกหน่อไม้ฝรั่งร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยแม่โจ้และยกระดับเกษตรกรให้ปลูกหน่อไม้ฝรั่งแบบปลอดภัย GAP และอินทรีย์เพื่อการส่งออก
โดยส่งเสริมให้เกษตรกร ต.บ้านติ้ว ต.ห้วยไร่ ปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์มีสมาชิก 100 ราย พื้นที่ 300 ไร่ เกษตรกร 1 รายจะปลูก 3 ไร่ เกษตรกรจะมีรายได้จากการขายหน่อไม้ฝรั่งวันละ 1,000-2,000 บาท โดยห้างหุ้นส่วนฯ ได้รับซื้อหน่อไม้ฝรั่งตกเกรดจากราคากิโลกรัมละ 5 บาท เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 30 บาท โดยมีข้อตกลงร่วมต้องเป็นอินทรีย์ ปัจจุบันรับซื้อหน่อไม้ฝรั่งตกเกรดจากเกษตรเดือนละ 180,000 บาท เพื่อนำมาผลิตหน่อไม้ฝรั่งผงชงดื่มเพื่อสุขภาพ
สำหรับช่องทางการตลาดนั้นมีหลายรูปแบบทั้งขายผ่าน Online และส่งโรงพยาบาลต่างๆ และยังรับจ้างผลิตสินค้าประเภท OEM ให้กับ บ.ที่ผลิตอาหารเสริม
แนวคิดในการทำธุรกิจดังกล่าวเนื่องมาจากการเป็นผู้ประกอบการรักบ้านเกิด จึงได้เชื่อมร้อยเยาวชนในพื้นที่กลับมาพัฒนาบ้านเกิดโดยรับซื้อพืชผักจากเกษตรกรภายในชุมชน เพื่อนำมาแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อสุขภาพ
ห้างหุ้นส่วน ได้ทำการศึกษาเรียนรู้ และคิดค้นทดลองแปรรูปหน่อไม้ฝรั่งเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าจนได้หน่อไม้ฝรั่งผงชงดื่มในน้ำเย็น สร้างความสะดวกในการรับประทานผัก ตรา “U-smile”
ขณะเดียวกันยังได้ทำการประชาสัมพันธ์ออกสื่อต่างๆ ใน เรื่องหน่อไม้ฝรั่งผง “U-Smile” ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น แผนการในอนาคตจะนำผักและผลไม้มาผลิตเป็นผงพร้อมชงดื่ม เช่น อาโวคาโด เป็นการสร้างมูลค่าให้กับชุมชน อีกด้วย
ซิมพลิ เด็คคอร์
หัตถกรรมเพื่อชุมชน
บริษัท ซิมพลิ เด็คคอร์ จำกัด จ.เชียงใหม่ บริหารงานโดย “นายธนากร สุภาษา” จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2547 การดำเนินกิจการของบริษัท เป็นโรงงานผลิตและส่งออกกระดาษสาและผลิตภัณฑ์จากกระดาษสาโดยต้องการอนุรักษ์และพัฒนางานหัตถกรรมให้สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนและสังคมไทย
อีกทั้งเป็นรายได้ให้กับคนในชุมชน และเกิดการจ้างงาน เน้นสร้างมูลค่าจากวัตถุดิบในชุมชนจากวัตถุดิบในท้องถิ่น คือต้นปอสา สับปะรด และต้นกล้วย ทำการตลาดโดยเน้น การส่งออกต่างประเทศ ผลิตกระดาษสา และ พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา เช่น กล่อง ถุงกระดาษสา และงานเพ้นท์เพื่อผลิตและจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมและของที่ระลึก ฝีมือคนไทย
ดำเนินงาน โดยสร้างเครือข่ายชุมชนผู้ผลิตกระดาษ จำนวน 5 ชุมชน 1) ชุมชนต้นเปา 2) ชุมชนมะขุนหวาน 3) ชุมชนสันกำแพง 4) ชุมชนแม่คือ จังหวัดเชียงใหม่ 5) อำเภอหมอเมือง จังหวัดน่าน
บริษัทเน้นการทำตลาดต่างประเทศ ญี่ปุ่น ยุโรป เกาหลี ฮ่องกง 90% และตลาดในประเทศ 10 % ทั้งนี้ทำให้ เกิดการสร้างรายได้ให้กับเครือข่ายชุมชน 5 ชุมชน รวมสมาชิก 100 กว่าครัวเรือน รายได้เฉลี่ย 20,000 บาท/ครัวเรือน/เดือน เฉลี่ยสร้างรายได้จากการจ้างงานและรับซื้อกระดาษในชุมชนปีละ 6,300,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีการให้ความรู้และอบรมให้กับโรงเรียนและชุมชนที่มีความสนใจจะประกอบเป็นอาชีพ พัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมโดยการทำระบบบำบัดน้ำเสีย ส่งเสริมการปลูกปอสา ปรับปรุงระบบการผลิตมาใช้โซล่าเซลล์เพื่อลดพลังงาน พัฒนาวัสดุและบรรจุภัณฑ์มาเน้นวัสดุธรรมชาติอีกด้วย
ไบโอไบรท์….
“ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด Organic”
บริษัท ไบโอไบรท์ (ประเทศไทย) จำกัด จ.เลย ผลิตน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายโดยมี “ปัณณพัทธ์ ปภาพงศ์พศุตม์” เป็นผู้บริหาร
จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2551 บริษัทไบโอไบรท์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ายจากสาขา จ.ตรัง มาตั้งที่ จ.เลย เนื่องจากมีวัตถุดิบในการนำใช้ประกอบการผลิต เช่น สับปะรด อาโวคาโด เป็นต้น และสถานที่ผลิตมีแหล่งน้ำใต้ดินที่สะอาดไม่สารเคมีตกค้าง ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพและคนเป็นโรคภูมิแพ้ จึงเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคกับการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็น Organic ป้องการการระคายเคือง เหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคที่มีผิวแพ้ง่าย
บริษัทผลิต ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย 50 ชนิด ได้รับมาตรฐาน GMP CODEX (มาตรฐานสากลของโครงการมาตรฐานอาหาร FAO/WHO) และเคยได้รับมาตรฐาน Thai Green Label Scheme (โครงการฉลากเขียว – สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย) ในด้านรักษาสิ่งแวดล้อม
สำหรับวัตถุดิบบริษัทได้ทำการรับซื้อผลไม้จากเกษตรกร 90 % เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ โดยเฉลี่ยรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรปีละ 10,000 ตัน ด้านการตลาดจะเน้นผลิตตาม ตามออร์เดอร์ที่ร้านค้าเพื่อสุขภาพต่างๆ สั่งเข้ามา และจับกลุ่มตลาดโรงพยาบาล นอกจากนั้นก็มีบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่เห็นคุณค่าของผลิตภัณฑ์ เช่น โครงการน้ำคือชีวิตของบริษัท SCG ซึ่งสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้น
นอกจากนี้ยังรับรับผลิตสินค้าประเภท OEM ให้บริษัท COTTO และบริษัทที่ทำผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก lamoon เหนือสิ่งใด บริษัทได้รับการแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ให้เป็นแกนนำส่งเสริมเรื่องเกษตรอินทรีย์
ทั้งหมดนี้คือ 5 ผู้ประกอบการที่คณะกรรมการคัดเลือกให้รับรางวัลเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ ประจำปี 2561