สังสรรค์เครือข่าย LFC สิบสองรุ่น คึกคัก สานต่อ BCG in Action
ชื่นมื่นเมื่อชาว LFC ทั้ง 12 รุ่น ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง (Leadership for Change – LFC) หลักสูตรสร้างผู้นำสังคม ของมูลนิธิสัมมาชีพ ได้มาพบปะสังสรรค์กับกิจกรรมดีๆ “LFC networking” ครั้งที่ 1 ผู้นำสร้างเสริม เครือข่ายสร้างสรรค์ ภายในงาน Smart SME Expo 2023 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ
ประสาพี่น้องที่มารียูเนี่ยนกัน เหล่าพี่ใหญ่ทั้ง “มงคล ลีลาธรรม” ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิสัมมาชีพ, “วิเชฐ ตันติวานิช” ประธานกรรมการสถาบันผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง และรองประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ และ “ประวิทย์ จิตนราพงศ์” รองประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ และประธานชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง จึงต่างสลับกันขึ้นมาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชาว LFC โดยเฉพาะ “ไฮไลท์” หลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง รุ่นที่ 13 ซึ่งกำลังเปิดรับสมัครอยู่ และจะเริ่มอบรมกันในกลางเดือนส.ค.นี้ (18 ส.ค.- 16 ก.ย.2566) กับธีมที่อินเทรนด์โลกสุดๆ
“BCG Model in Action” ! เทรนด์เศรษฐกิจโลก เพื่อสร้าง “สร้างความยั่งยืน” ในทุกระดับ ตั้งแต่ สังคม ชุมชน ประเทศชาติ
ทว่า คำหรู BCG (Bio- Circular – Green Economy) นี้ พี่ใหญ่ทั้ง 3 ยืนยันว่า เป็นสิ่งที่มูลนิธิสัมมาชีพมุ่งมั่นทำมาต่อเนื่อง อย่างมีวิสัยทัศน์ อย่างผู้มาก่อนกาล ก่อนที่จะมีการบัญญัติศัพท์คำนี้
“สัมมาชีพคือการส่งเสริมให้คนมีอาชีพที่ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม ก็จะเกิดความยั่งยืน เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-สังคมเชิงโครงสร้าง
เราภูมิใจว่า เราทำเรื่องนี้มาตลอด สิ่งเหล่านี้เราพัฒนามาก่อน และยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะ 26 ปีที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ต้มยำกุ้ง จนถึงทุกวันนี้ ไทยได้บทเรียนว่า คนที่อยู่ฐานรากยังคงขาดโอกาส ขาดสิ่งที่เรียกว่า การกินดีอยู่ดี” มงคล เผย พร้อมกับให้ทัศนะว่า
การแก้ไขปัญหาการขาดโอกาส หรือแก้ปัญหาความยากจน สามารถทำได้ หากดำเนินการให้ถูก “สัมมาอาชีวะ” (ทำให้ถูกวิธี) ที่สำคัญต้องร่วมมือกันทำให้เป็นภาพใหญ่ของประเทศ เขาเชื่อเช่นนั้น
อาทิเช่น การปลูกข้าว ถ้าปลูกอย่างถูกวิธี ไม่มีวันจน ปลูกอย่างที่ปราชญ์ชาวบ้านได้เรียนรู้และทำมา จะสร้างผลผลิตต่อไร่ได้สูง ซึ่งมีคนทำได้มาแล้ว ถือเป็นความมหัศจรรย์ของมนุษยชาติ
หรือเรื่องของ Bio – Economy ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร ถ้าทำถูกต้องตาม ดิน น้ำ ลม ไฟ ใช้ภูมิปัญญานำ เดินตามแนวทาง BCG ไม่ทำให้โลกร้อน ดูแลสิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติก็จะไม่ซ้ำเติม โลกก็จะค้าขายกับเรา เราก็จะมีรายได้ ไม่ยากจน
สอดคล้องกับ วิเชฐ ในฐานะประธานกรรมการสถาบันผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง (LFC) ที่บอกว่า BCG เป็นเรื่องที่ LFC ดำเนินการมา 12 รุ่น
“เจาะลึกลงไป คือ LFC ทำเรื่องนี้มา 12 รุ่นแล้ว โลกค่อยเพิ่งมาเรียกว่า BCG ก็ถือว่าโชคดีที่กระแสของโลกมาทับเราพอดี เป็นเรื่องที่ทันการณ์และเหมาะสมที่สุด เพราะต่อไปนี้โลกมีกติกาว่าจะใส่ใจเรื่องเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว ( Bio – Circular –Green Economy) แปลว่า ถ้าใครไม่แคร์ โลกก็จะไม่คบค้าด้วย เราถึงได้ยินคำว่า คาร์บอนเครดิต พลังงานหมุนเวียน การผลิตที่ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ และได้ยินคำว่า 1.5 องศา ที่ทั่วโลกตั้งใจจะรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้พุ่งเกิน 1.5 องศาตามข้อตกลงปารีส แปลว่า ทุกคนในโลกใบนี้ต้องร่วมมือกันเพื่อเข้าสู่บรรยากาศของเศรษฐกิจ BCG”
ในเมื่อ LFC 12 รุ่น ทำเรื่องเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง LFC รุ่นที่ 13 ธีมจึงชัดเจนลงไปว่า “In Action” ถึงเวลาที่ LFC ทุกรุ่น ต้องร่วมกันแปลงเรื่องเหล่านี้ สู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อมีส่วนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้น โดยนำตัวอย่างเรื่อง BCG ของรุ่นพี่ LFC ที่ทำมาแล้วในระดับหมู่บ้าน หน่วยงาน อำเภอ ที่เป็นตัวอย่างที่ดี มาให้ผู้อบรมหลักสูตร LFC รุ่นที่ 13 เข้าไปร่วม
นี่คือ In Action อย่างแท้จริง ไม่ใช่อบรมในคลาสแล้วรู้แต่ทฤษฎีเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องเข้าสู่การปฏิบัติ โดยการแนะนำจากรุ่นพี่
วิเชฐ ยังขยายความว่า เรื่องของ BCG ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะภาคการเกษตรเท่านั้น แต่เรื่อง BCG = สัมมาชีพ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกภาคธุรกิจ เกี่ยวข้องกับทุกคนบนโลก ที่ต่างได้รับผลกระทบกับสิ่งเหล่านี้
“ผมมีโอกาสไปพบกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เราก็ไปยืนยันคำว่านี้ว่า สัมมาชีพของเรา หลักสูตรผู้นำนำการเปลี่ยนแปลง เราได้ทำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ BCG มานานกว่า 12 ปีแล้ว และเรายืนยันว่า เราอยากจะสนับสนุนแนวคิดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสนใจเรื่อง BCG มากกว่านี้ อาทิ ในตลาดเอ็ม เอ ไอ”
เขายังเชื่อมั่นด้วยว่า ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน (ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม) ในการผลักดัน BCG จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่เรียกว่า “สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา”
“ผมดีใจ เพราะว่า ความจริงมีหนึ่งเดียว เรา (มูลนิธิสัมมาชีพ/LFC) ทำสิ่งที่ดี สุดท้ายคนทั้งโลกบอกว่า อันนี้มันดี โลกก็ประกาศว่านี่คือ BCG แต่ตอนนี้คือโมเมนท์ว่า เราจะสร้างพลังขับเคลื่อนเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ถามว่าการขับเคลื่อนครั้งนี้มีอะไรยาก ผมไม่เห็นว่ามีอะไรยาก อยู่ที่พวกเราว่าจะขับเคลื่อนแค่ไหน ผมคาดหวังว่า LFC รุ่นที่ 13 จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้จะอยู่กับเราต่อไปอีกหลายสิบปี และเราควรจะใช้โอกาสนี้ ในการสร้างความเชื่อของเราไปให้เกิดการกระทำ นั่นคือการลงมือทำ” วิเชฐ ย้ำ
ขณะที่พี่ใหญ่อีกราย “ประวิทย์ จิตนราพงศ์” รองประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ และประธานชมรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง ให้มุมมองว่า การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานรากซึ่งเป็นปัญหาหลักของประเทศไทย หนี้ไม่พ้นเรื่องของ BCG เพราะเศรษฐกิจฐานราก ไม่ได้พูดถึงความหรูหราสิ้นเปลือง ไม่ได้พูดถึงการทำลายโลก แต่สิ่งที่ผู้คนฐานรากทำคือ การประกอบสัมมาชีพเพื่อเลี้ยงตัวเองให้รอด ปลดเปลื้องภาระหนี้สิน
“กลุ่มคนที่มูลนิธิสัมมาชีพไปสนับสนุน อยู่ต่างจังหวัด บนดอย พื้นที่ห่างไกล สิ่งที่พวกเขาทำคือประกอบสัมมาชีพอยู่แล้ว ผู้บริหารมูลนิธิสัมมาชีพมีมุมมองที่มองเห็นอนาคตว่า สักวันหนึ่งโลกก็จะหมุนมาในสิ่งที่้มองไว้จึงผลักดันในเรื่องเหล่านี้ จนมีเครือข่ายและแรงสนับสนุนเพื่อให้ดำเนินการเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นพลังขับเคลื่อนสู่การมีสัมมาชีพเต็มพื้นที่” ประวิทย์ เผย
นี่คือกิจกรรมดีๆ LFC networking” ครั้งที่ 1 ผู้นำสร้างเสริม เครือข่ายสร้างสรรค์ ที่มุ่งหวังว่า พลังเครือข่าย “ผู้นำ – นำการเปลี่ยนแปลง” ทุกรุ่นและแนวร่วมต่างๆ จะร่วมกันสานต่อแนวทาง BCG เพื่อร่วมสร้างเศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง สังคมศานติสุข