skip to Main Content
02-530-9204 sammachiv.pr@gmail.com
“ฟ้าทะลายโจร”ตัวช่วยพยุงรัฐล้มเหลวโควิด

“ฟ้าทะลายโจร”ตัวช่วยพยุงรัฐล้มเหลวโควิด

“ฟ้าทะลายโจร”ตัวช่วยพยุงรัฐล้มเหลวโควิด

 

ขณะที่คนไทยเฝ้ารอวัคซีนมาฉีดป้องกันการระบาดโควิดนั้น ในด้านการรักษาผู้ติดเชื้อเบื้องต้น ระบบสาธารณสุขไทยใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ (favipliravir) จากประเทศญี่ปุ่นเป็นยาหลัก มียาเรมเดซิเวียร์ มาช่วยเสริม และสมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” เป็นตัวช่วยชะลอเชื้อลงปอด

สำหรับการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ชมรมแพทย์ชนบทประเมินว่า ผู้ติดเชื้อ 1 คนต้องใช้ยา 50 เม็ด ซึ่งมีราคาเม็ดละ 150 บาทคิดเป็นค่ายาคนละ 7,500 บาท อย่างไรก็ตาม หากการระบาดโควิดรุนแรงเข้าขั้นวิกฤต คาดมีผู้ติดเชื้อสูงวันละ 10,000 ราย ต้องใช้ยามากถึงวันละ 500,000 เม็ด คิดเป็นเงิน 75 ล้านบาทต่อวัน

ดังนั้น ถ้านำตัวอย่างความชะล่าใจในการจัดหาวัคซีนมาเป็นกรณีศึกษาก่อความเสียหายอันใหญ่หลวงแล้ว กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ได้เตรียมแผนจัดหาถึง 21 ล้านเม็ด โดย ก.ค.นี้จะทยอยส่งมอบทั้งหมด 4 ครั้งจำนวน 16 ล้านเม็ด ส่วน ส.ค.-ก.ย. ได้เตรียมแผนจัดซื้ออีกเดือนละ 2 ล้านเม็ด และมั่นใจรองรับสถานการณ์และสอดคล้องกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นได้

 

 

ส่วนยาเรมเดซิเวียร์ มีข้อมูลว่า ไทยนำเข้ามาเพียง 4,000 ขวด ในจำนวนนี้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริจาค 2,000 ขวด และขณะนี้มียอดคงเหลืออยู่ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) 1,613 ขวด ซึ่งคาดใช้เพียงพอความต้องการ อย่างไรก็ตาม อาจเป็นด้วยเหลือน้อย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เตือนหายา”เรมเดซิเวียร์”รักษาผู้ป่วยให้พร้อม เพราะหวั่นจะซ้ำรอยขาดแคลน”ฟาวิพิราเวียร์” อีก

นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรฟ้าทะลายโจร มาช่วยการรักษาอีกแรง โดยเมื่อ เม.ย.ที่ผ่านมา สธ.ได้มอบให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศจำนวน 600,000  แคปซูลเพื่อใช้เป็นทางเลือกรักษาผู้ป่วยโควิด

 

ปรากฎการณ์“ฟ้าทะลายโจร”

การใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาการติดเชื้อโควิดเบื้องต้นกำลังสร้างความฮือฮาครั้งสำคัญ ประชาชนมีความต้องการใช้จำนวนมาก จนทำให้ขาดแคลนเนื่องจากการซื้อกักตุน ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นจากกระปุกละ 90 บาทเป็นกว่า 100 บาท พร้อมๆกับหนุนราคาผลผลิตของเกษตรกรสูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยราคาแบบตากแห้งปรับราคาขึ้นขายตันละ 40,000 บาท จากเดิมราคาตันละ 25,000 บาท และแบบบดเป็นผง ปรับราคาขายกิโลกรัมละ 600 บาทจากกิโลกรัมละ 300 บาท

ประจวบเหมาะ รัฐบาลสบโอกาสโหนฟ้าทะลายโจรด้วยการส่งเสริมขยายการปลูกสมุนไพรไทยให้กว้างขวางขึ้นเพื่อเป็นอุตสาหกรรมส่งออก โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์วางแผนส่งออกผลิตภัณฑ์และพืชสมุนไพรในปี 2564 ไว้ที่ระดับ 3.8 แสนล้านบาท อีกทั้ง น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกปี 2564 สมุนไพรส่องออกเติบโตถึง 93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ที่มีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท

ดังนั้น รัฐบาลจะหนุนให้เกษตรกรปลูกในพื้นที่ ส.ป.ก เขต อีอีซี ประมาณ 10,000 ไร่ โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจรทำเป็นแปลงใหญ่ เพราะเป็นที่ต้องการของประชาชนในช่วงวิกฤตโควิดอย่างมาก และเรือนจำทั่วประเทศ 125 แห่งได้นำร่องปลูกแล้ว

ด้วยความแตกตื่นและความต้องการฟ้าทะลายโจรอย่างล้นหลามนั้น อาจเป็นด้วยตื่นตระหนกกับโควิดระบาดรุนแรง ประชาชนหวาดกลัวกับการติดเชื้อ เพราะการตรวจหาเชื้อโควิดในโรงพยาบาลแบบ Swab หรือแบบแหย่จมูกทำได้ยากเย็นแสนเข็น อีกทั้งต้องทำซ้ำกันหลายครั้งจึงจะมีความมั่นใจในผลตรวจตามความจริงว่า ติดหรือไม่ติดเชื้อโควิด

ในขณะนี้ ทั้งการตรวจหาเชื้อและการเร่งฉีดวัคซีนป้องกัน เมื่อรวมข้อเท็จจริงจากปรากฎการหลากหลาย จึงกล่าวอย่างตรงความจริงว่า ความตื่นตระหนกของประชาชนเป็นเครื่องสะท้อนถึงความล้มเหลวสิ้นท่าของรัฐไทยกับการให้บริการสาธารณสุขตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 ระบุว่า บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐ บุคคลผู้ยากไร้ย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายบัญญัติ บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

เมื่อประชาชนมีอุปสรรคยากต่อการเข้าถึงมาตรการป้องกัน รักษาโควิดจากรัฐ รวมทั้งยาฟาวิพิราเวียร์และยาเรมเดซิเวียร์ถูกควบคุมการใช้ไว้เฉพาะโรงพยาบาลและ สธ. ดังนั้น ประชาชนจึงเอาตัวรอดด้วยเข้าถึงสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ซึ่งทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วกว่า เพราะมีจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป ที่สำคัญสามารถใช้ป้องกันหรือชะลอการติดเชื้อโควิด อีกทั้งยังช่วยยับยั้งเชื้อลงปอด บรรเทาความรุนแรงได้เป็นเบื้องต้น สิ่งสำคัญคือประชาชนช่วยตัวเอง ในยามที่รัฐล้มเหลว ขาดความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นร่อยหรอลง

 

ผลศึกษาชะลอโควิดลงปอด

สมุนไพรฟ้าทะลายโจรได้รับการยอมรับอย่างสูงเมื่อผ่านการทดสอบในเรือนจำกับผู้ติดเชื้อไม่รุนแรงว่า สามารถยับยั้งการแพร่เชื้อโควิดได้ นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และองค์การเภสัชกรรม ศึกษานำร่องผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรมาทดลองใช้กับผู้ป่วยโควิดระดับรุนแรงเล็กน้องถึงปานกลาง  ซึ่งสรุปผลว่า ฟ้าทะลายโจรมีส่วนช่วยป้องกันไวรัสโควิดไม่ให้เข้าเซลล์ เมื่อเข้าไปแล้วก็ลดการแบ่งตัว ยับยั้งเชื้อหรือฆ่าเชื้อ ดังนั้น ฟ้าทะลายโจรจึงรักษาผู้ป่วยโควิดได้

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ผู้ก่อตั้งและผู้ประสานงานกลุ่ม CARE คิดเคลื่อนไทย รายงานการศึกษาฟ้าทะลายโจรของ ศ. (เกียรติคุณ) พญ.สยมพร ศิรินาวิน อาจารย์แพทย์รามาธิบดี ผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านโรคติดเชื้อและระบาดวิทยาคลินิก ซึ่งสรุปว่า ไทยเคยเตรียมทำวิจัยเรื่อง Andrographolide ซึ่งเป็นสารสำคัญในสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพื่อรักษาโควิดในคนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่จำนวนผู้ป่วยโควิดมีน้อยจึงชะลอไป และเพิ่งมาทำวิจัยกันใหม่ในการระบาดระลอก 2

การศึกษาเก็บข้อมูลย้อนหลัง (Retrospective Cohort study) ในกลุ่มตัวอย่าง 539 คนที่จังหวัดสมุทรสาคร นครปฐมและราชบุรี พบว่า กลุ่มควบคุม (control) ที่ไม่ได้รับ Andrographolide (จากฟ้าทะลายโจร) มีปอดบวม 24% หรือ 71 คน ส่วนกลุ่มที่ได้รับฟ้าทะลายโจร มีปอดบวมเพียง 0.4% หรือ 1 คน และคนที่มีปอดบวม ได้รับฟ้าทะลายโจรช้า คือกินยาเมื่อรับเชื้อแล้วถึง 11 วัน

“เมื่อมีการระบาดใหญ่ในเรือนจำตอนกลางเดือนพฤษภาคม อาจารย์สยมพรโทรศัพท์มาเล่าให้ผมฟังถึงผลการวิจัยเบื้องต้นเกี่ยวกับ Andrographolide ของอาจารย์ และขอให้ผมแจ้งผู้รับผิดชอบของเรือนจำ เพื่อจ่ายยาฟ้าทะลายโจรแก่ผู้ต้องขังในแดนต่างๆที่มีการระบาดทุกคน (เนื่องจากสภาพแวดล้อมในเรือนจำทำให้ทุกคนเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง) ผมจึงส่งผ่านข้อมูลไปให้ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หลังจากนั้นทราบว่า มีการจัดยาฟ้าทะลายโจรให้ผู้ต้องขังอย่างทั่วถึง” นพ.สุรพงษ์ ระบุ

นพ.สุรพงษ์ สรุปว่า หากเราให้ผู้ป่วยกิน Andrographolide (จากฟ้าทะลายโจร) ทันทีที่ตรวจพบเชื้อ ในทางทฤษฎี Andrographolide จะไปยับยั้งเอ็นไซม์ Main Protease (Mpro) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ไวรัสเพิ่มจำนวน เมื่อไวรัสเพิ่มจำนวนไม่ได้ อาการป่วยจึงไม่รุนแรง ไวรัสไม่ลงปอด ไม่มีปอดบวม ผู้ป่วยไม่ต้องเข้า ICU และไม่เสียชีวิต ผลที่ตามมาคือ ลดจำนวนผู้ป่วยหนัก ช่วยแก้ปัญหาเตียงไม่พอและขาดแคลนแพทย์พยาบาล จนระบบสาธารณสุขล่มได้

 

            

 

ดังนั้น ถ้าส่งเสริมให้ใช้ Andrographolide ในผู้ติดเชื้อที่มีอาการน้อยและผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงทันที น่าจะช่วยลดอัตราการป่วยหนักจากปอดบวม และลดอัตราตายได้ กระทรวงสาธารณสุข และ กรมการแพทย์ผู้รับผิดชอบจัดทำ Clinical Practice Guideline (CPG) ควรรีบแก้ไข CPG โดยบรรจุ Andrographolide ในตำรับยาที่ใช้รักษาโควิด เพราะโรงพยาบาลบางแห่งยังสั่งห้ามผู้ป่วยโควิดที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยกินยา Andrographolide เพราะอ้างว่า ไม่มีระบุไว้ใน CPG

 

ตัวช่วยประชาชนทุเลาเชื้อ

ปัจจุบันองค์การอาหารและยา (อย.) รับฟ้าทะลายโจรเข้าบัญชียาหลัก เมื่อ 27 พ.ค. 2564 และประกาศในราชกิจจาฯ ให้ขึ้นเป็นบัญชียาหลักเมื่อ 6 มิ.ย. 2564 แล้ว สปสช เพิ่มสิทธิประโยชน์ใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาโควิดเมื่อ 7 มิ.ย. 2564

ขณะนี้ ฟ้าทะลายโจร เป็นยาสมุนไพรที่ถูกใช้อย่างสำคัญยิ่งสำหรับการรักษาเพื่อยับยั้งโควิดในผู้ป่วยติดเชื้อไม่รุนแรงหรือผู้ติดเชื้อโควิดระดับสีเขียว ในโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งโรงพยาบาลสนามบุษราคัม ศูนย์นิมิบุตร และโรงพยาบาลสนาม อื่น ๆ ส่งไปที่แคมป์กักตัวคนงานก่อสร้าง และในเรือนจำทั่วประเทศ

ด้วยปรากฎการฟ้าทะยานโจร จึงเป็นยาทางเลือกเพื่อทางรอดของประชาชนที่แวยติดเชื้อโควิดไม่รุนแรง และยังเป็นความอุ่นใจที่คนไทยพอจะมีความหวังรักษาตัวเองเป็นเบื้องต้นจนกว่าการจัดหาและบริการฉีดวัคซีนจะหายจากอาการเละเทะของรัฐบาลในการควบคุมโควิดระบาดขึ้นวิกฤตในครั้งนี้


ติดตามข้อมูลข่าวสารของมูลนิธิสัมมาชีพเพิ่มเติมได้ที่:

https://www.facebook.com/sammachiv

https://www.facebook.com/chumchonmeedee

 

 

Back To Top