skip to Main Content
02-530-9204 sammachiv.pr@gmail.com
ต้นแบบแปรรูปเศษพืช-มูลสัตว์ “เปลี่ยน สีเสียดค้า” ผู้นำปุ๋ยหมักระบบกองเติมอากาศ

ต้นแบบแปรรูปเศษพืช-มูลสัตว์ “เปลี่ยน สีเสียดค้า” ผู้นำปุ๋ยหมักระบบกองเติมอากาศ

ต้นแบบแปรรูปเศษพืช-มูลสัตว์

“เปลี่ยน สีเสียดค้า”

ผู้นำปุ๋ยหมักระบบกองเติมอากาศ

………………………………………….

กรมการพัฒนาชุมชน เสนอนายเปลี่ยน สีเสียดค้า อายุ 74 ปี ผู้นำชุมชนตำบลสันโค้ง อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา นักพัฒนาชุมชนที่ให้ความสำคัญต่อการจัดการวิถีธรรมชาติ การทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ และเศรษฐกิจพอเพียง เข้ารับคัดเลือกให้เป็นผู้มีความเหมาะสมกับรางวัล “ปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ” ประจำปี พ.ศ. 2565

 

ตามประวัติชีวิตทำงาน นายเปลี่ยน บวชเรียนจากโรงเรียนพินิตประสาธน์วัดศรีอุโมงค์คำ (วัดสูง) จ.พะเยา จนกระทั่งได้วุฒิ กศน. ม.6 เริ่มทำงานเป็นผู้ใหญ่บ้านมาตั้งแต่ปี 2522 ถึง ปี 2543 รวมเวลา 21 ปี และเป็นสมาชิก อบต. 4 ปีกับประธานสภา อบต. อีก 4 ปี ซึ่งเป็นห้วงระยะเวลาที่ทำงานเกี่ยวข้องกับชุมชนในตำแหน่งหน้าที่ของท้องที่และท้องถิ่น

 

นายเปลี่ยน สร้างหลักคิดในการทำงานพัฒนาชุมชนและสังคม โดยยึดแนวทางว่า “สังคมชุมชนต้องยืดหยุ่นได้ ทรัพยากรธรรมชาติต้องอยู่ สิ่งแวดล้อมต้องสะอาด” การเรียนรู้ของชุมชนย่อมเกิดขึ้นได้จากการทำงานที่มีความสนุก (ม่วน) เรียนเรื่องใกล้ตัว วิธีธรรมชาติ ได้ความรู้จริง (ฮู้แต้) ได้ปฏิบัติ ทดลองด้วยตนเอง ได้เพื่อน (มีหมู่) เครือข่ายจากชุมชนอื่น ได้กินได้ใช้ (ได้กิ๋น ได้ใจ้) ทำเป็นเอง ได้ขาย และได้เงิน (มีตังค์) เพราะจัดการเป็น

 

สิ่งสำคัญได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและการทำปุ๋ยหมักในปี 2537 เป็นปุ๋ยหมักระบบกองแบบเติมอากาศ และจัดตั้งกลุ่มทำปุ๋ยชีวภาพตำบลสันโค้ง ด้วยการสนับสนุนจาก อบต.สันโค้ง ต่อมามีการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปุ๋ยหมักสันโค้งในปี 2554 มีสมาชิกจำนวน 97 ราย

 

 

การทำปุ๋ยหมักระบบกองแบบเติมอากาศ เป็นการทำปุ๋ยหมักบนลานพื้นกลางแจ้ง และผลิตได้ทุกฤดูกาล ใช้เวลาสั้น 30 วัน ต้นทุนต่ำ เหมาะกับสภาพพื้นที่ชนบทที่มีเศษพืชและมูลสัตว์ เป็นการสะสมประสบการณ์ของการเรียนรู้ด้วยตนเอง จนพัฒนาเป็นสูตรการหมักปุ๋ยระบบกองแบบเติมอากาศที่มีศักยภาพสามารถใช้ประโยชน์เชิงเกษตรกรรมชุมชนหรือผลิตใช้เอง มีค่าใช้จ่ายต้นทุน 1,630 บาท/ตัน โดยปุ๋ย 1 ตัน = 1 กอง จะประกอบไปด้วยส่วนผสมมูลสัตว์ 3 ลบ.ม. เศษพืช 6 ลบ.ม. หินฟอสเฟต 5,000 กรัม ปุ๋ยยูเรีย 5,000 กรัม และสารเร่งปฏิกิริยา 1 ซอง

 

     

 

การหมักปุ๋ยดังกล่าว มีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงต่อการย่อยสลายของจุลินทรีย์โดยใช้ออกซิเจน เช่น (1) ความชื้น จุลินทรีย์ต้องการความชื้นที่เหมาะสมประมาณ 45-60 ของความชื้น (2) แหล่งจุลินทรีย์ มูลสัตว์จะเป็นแหล่งจุลินทรีย์ที่ไปทำหน้าที่ย่อยสลาย (3) ออกซิเจน การย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ชนิดที่ใช้ออกซิเจนจะมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วกว่าจุลินทรีย์ชนิดที่ไม่ใช้ออกซิเจนหลายเท่า การใช้เครื่องเติมอากาศง่ายกว่าการพลิกกองปุ๋ย (4) อุณหภูมิในกองปุ๋ย ปฏิกิริยาการย่อยสลายจะให้ความร้อนภายในกองปุ๋ยอยู่ที่อุณหภูมิประมาณ 50-60 องศาเซลเซียส ก็จะเป็นสภาวะที่จุลินทรีย์สามารถเจริญเติบโตได้ดี ส่งผลให้การหมักปุ๋ยเสร็จเร็วขึ้น (5) เศษพืช เศษพืชที่จะนำมาหมักปุ๋ยควรถูกย่อยให้มีขนาดพอดี ประมาณ 1-4 นิ้วเพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์

 

 

ผลการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนในเรื่องปุ๋ยหมักที่นายเปลี่ยน ได้เริ่มพัฒนาความรู้และสูตรข้างต้น สามารถขายให้กับเกษตรกรสมาชิกและในชุมชนในราคาเพียง 140 บาท/กระสอบ มียอดขายปีละ 500 ตัน ไม่เพียงเท่านั้น ยังส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรของชุมชน คือ กระเทียม เป็นกระเทียมแบบปลอดสารพิษ อันเป็นผลต่อเนื่องมาจากการับรองคุณภาพของปุ๋ยหมักที่กรมการพัฒนาที่ดินให้การรับรอง และนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นกระเทียมแคปซูล จนได้รับรางวัล OTOP 5 ดาว จากการจัดประกวดของกรมการพัฒนาชุมชน

 

 

คณะกรรมการคัดสรร ระบุผลงานบ่งชี้ความสำเร็จและการได้รับคัดสรรให้ได้รับรางวัลว่า นายเปลี่ยน เป็นตัวอย่างของความสำเร็จจากการเรียนรู้และลงมือทำปุ๋ยหมักจากวัสดุเหลือใช้ในพื้นที่ของชุมชนด้วยกระบวนการจัดการที่สอดคล้องกับหลักของความรู้การทำปุ๋ยหมัก ทั้งเรื่องของการควบคุมปัจจัยความเหมาะสมของพื้นที่และสภาวะแวดล้อม การเติมสารทางวิทยาศาสตร์ในจำนวนที่เหมาะสม (ฟอสเฟต ยูเรีย และสารเร่ง) ตลอดจนความเหมาะสมต่อพื้นที่ของชนบทที่มีลานกว้าง เป็นผู้สร้างความรู้และเป็นผู้ริเริ่มที่นำไปสู่การปฏิบัติจริง และเข้าใจได้ง่ายของเกษตรกรสมาชิก จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในความเป็นชนิดของผลผลิตทางการเกษตรไปสู่เกษตรแบบปลอดสารเคมี อันเป็นตัวอย่างการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากผลของการจัดการความรู้

 


ติดตามมูลนิธิสัมมาชีพได้ที่

https://www.facebook.com/sammachiv

https://www.facebook.com/chumchonmeedee

https://www.youtube.com/user/RightLivelihoods

https://www.instagram.com/sammachiv/

Back To Top