ปตท.มั่นใจนวัตกรรมสร้างเศรษฐกิจชุมชนยั่งยืน
ปตท.มั่นใจนวัตกรรมสร้างเศรษฐกิจชุมชนยั่งยืน
“อรรถพล” เผยภารกิจ ปตท.ร่วมมือชุมชนผลักดันวิถีพอเพียงยั่งยืน ต่อยอดสู่วิสาหกิจชุมชน ชี้ยุค ประเทศเจอภัยโควิดป่วน องค์กรเครือข่ายแบ่งบทบาทรุกงาน เติมพื้นที่ป่า เสริมท่องเที่ยว ดันเศรษฐกิจปากท้องช่วยประคับประคองให้ชุมชนเข้มแข็ง
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวถึงความยั่งยืนเศรษฐกิจชุมชนด้วยนวัตกรรม ในการอบรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง รุ่นที่ 11 เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2563 ว่า ปตท. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ มีภารกิจดูแลสังคม ส่งเสริมและสนับสนุนพลังขับเคลื่อนประเทศเพื่อก้าวข้ามผ่านสถานการณ์ปั่นป่วนทางสังคม เศรษฐกิจไปให้ได้ พร้อมร่วมมือสังคมเติมพลังงานพัฒนาต่อยอดสู่ชุมชนมั่นคง
ในด้านสังคม ปตท.เน้นถึงความต้องการของชุมชนให้ทำในสิ่งที่สังคมอยากได้ โดยสร้างความมีส่วนร่วม และอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญขององค์กรเครือข่าย มาร่วมมือช่วยเหลือขับเคลื่อนสังคม แล้วต่อยอดไปสู่ความยั่งยืน เช่น โครงการปลูกป่าล้านไร่ในพื้นที่ 40 กว่าจังหวัด ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งทำมา 8 ปีแล้ว
จากโครงการปลูกป่า ถูกต่อยอดไปสู่โครงการชุมชนวิถีพอเพียง 84 ตำบล ยึดหลักสร้างคน สร้างความรู้ ให้เกิดความพอเพียง นอกจากนี้ยังสานพลังร่วมมือกับเครือข่ายต่างๆมาช่วยกันดูแล เช่น โครงการคุ้งบางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าเขียวถูกยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน แล้วพัฒนาต่อยอดให้เศรษฐกิจชุมชนมีพื้นที่จำหน่าย
ส่วนการพัฒนาชุมชนนั้น เริ่มจากกระบวนการศึกษาปัญหาในชุมชนแล้วนำสิ่งที่ชุมชนมีอยู่มาพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ โดยมุ่งหวังเป็นพลังงานเพื่อส่งเสริมศักยภาพจากทรัพยากรอย่างยั่งยืน เช่น การติดตั้งโซลาเซลล์และตะบันน้ำกลางน้ำเพื่อสูบน้ำแก้ปัญหาแหล่งน้ำแล้ง หรือน้ำหลาก
อีกอย่าง ปตท.มีโมเดลโครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม โดยตั้งใจนำความรู้ นวัตกรรมที่มีอยู่มาบูรณาการช่วยสังคมอย่างเต็มรูปแบบผสมสานกัน เริ่มปรากฎในพื้นที่ ต.ท่ามะนาว ลพบุรี แล้ววางเป้าหมายให้เกิดโครงการเช่นนี้อีกอย่างน้อย 30 ชุมชน และมีโมเดลโครงการ smart farming มาช่วยเติมเต็มในพื้นที่สังคมการเกษตร
นอกจากนี้โมเดล smart marketing ถูกสร้างขึ้นเป็นช่องทางการตลาดของชุมชน ถ่ายทอดความรู้ด้วยการพัฒนายี่ห้อ ออกแบบบรรจุผลิตภัณฑ์ แล้วเปิดช่องทางจำหน่ายทางออนไลน์ เช่น ไทพิมาน จังหวัดนครพนม ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และ ปตท.ได้ช่วยให้ชุมชนสามารถค้าขายสินค้าได้
รวมทั้งยังมีโมเดลโครงการ social enterprise เพื่อทำให้ชุมชนอยู่ด้วยตัวเอง มีรายได้เลี้ยงตัวเอง เช่น โครงการร้านกาแฟฟาริต้า เริ่มจากการขับเคลื่อนเปิดร้านของผู้พิการ แล้วต่อยอดพัฒนาไปถึงผู้สูงวัยมีงานทำในชุมชน
ส่วนโครงการ “Restart Thailand” เป็นโครงการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ เกิดขึ้นในช่วงประเทศได้รับผลกระทบโควิด-19 โดย ปตท.เตรียมจ้างแรงงานสำหรับการขยายธุรกิจและโครงการก่อสร้างต่างๆ ในปี 2564 กว่า 22,000 อัตรา
พร้อมทั้งจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ระดับ ปวช.- ปริญญาตรีกว่า 2,630 อัตรา เป็นระยะเวลา 12 เดือน ผ่านโครงการพัฒนาสังคม 3 ด้าน ทั้งส่งเสริมการศึกษาเยาวชน พัฒนาชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและวิจัยดูแลพื้นที่สีเขียวทั่วประเทศ เสริมการดูแลสังคมสู้ภัยโควิด-19 ให้ชุมชนยิ้มได้ ผ่านการสนับสนุนช่องทางการขายสินค้าชุมชนทางสื่อออนไลน์ ซึ่งกลุ่ม ปตท. พร้อมเคียงข้างคนไทยให้เดินหน้าต่อไปด้วยกัน
กลับสู่หน้าหลัก โครงการผู้นำ นำการเปลี่ยนแปลง คลิก

ติดตามข้อมูลข่าวสานของมูลนิธิสัมมาชีพเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.facebook.com/sammachiv